ตำราสุขภาพดี

ตำราสุขภาพดี

6 วิธีแก้ไอบ่อย มีเสมหะ จากภาวะหวัดลงคอ

 6 วิธีแก้ไอบ่อย มีเสมหะ จากภาวะหวัดลงคอ

เราอาจเคยได้ยินคำว่า หวัดลงคอ กันมาบ้าง ซึ่งเป็นคำเรียกของอาการไอ ระคายเคืองคอ เสียงแหบ หรือรู้สึกมีเสมหะในคอ และจริง ๆ แล้ว มันคืออะไรกันแน่ ? หวัดมีลำดับขั้นด้วยหรือ ? ในบทความนี้มีคำตอบมาให้แล้ว พร้อมวิธีแก้ไขอาการไอบ่อย ๆ ให้ด้วย ! หวัดลงคอ คืออะไร ? หวัดลงคอ คือคำเรียกอาการผิดปกติที่ลำคอ เช่น ไอ ไอแห้ง ระคายเคืองคอ มีเสมหะ เสียงแหบ โดยเกิดจากการติดเชื้อในลำคอ ส่งผลให้เกิดอาการเหล่านั้นได้ อาการของหวัดลงคอ หวัดลงคอสามารถเกิดขึ้นได้กับบุคคลที่คน และทุกช่วงอายุ โดยอาการเหล่านี้มักหายเป็นปกติได้เองเมื่อไข้ลดลง แต่ก็อาจมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้เช่นกัน สาเหตุของหวัดลงคอ สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดหวัดลงคอ คือ ไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อโรค จากไข้หวัด เสมหะที่ตกค้าง หรือมลพิษภายนอกที่เข้าไปในลำคอโดยจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้นั่นเอง ทั้งนี้มีปัจจัยอื่น ๆ เช่น โรคกรดไหลย้อน เป็นต้น 6 วิธีแก้ไอบ่อย […]

 6 วิธีแก้ไอบ่อย มีเสมหะ จากภาวะหวัดลงคอ Read More »

ไอ มีเสมหะ ระคายเคืองคอ จากโรคกรดไหลย้อน !

ไอ มีเสมหะ ระคายเคืองคอ จากโรคกรดไหลย้อน !

ไอ มีเสมหะ ระคายเคืองในคอ อาจไม่ได้เกิดจากอาการไข้อย่างเดียว ! โรคกรดไหลย้อนเองก็สามารถทำให้เกิดอาการไอได้เช่นกัน โดยจะรียกกันว่า โรคกรดไหลย้อนขึ้นคอ หรือ Laryngopharyngeal reflux (LPR) กรดไหลย้อนขึ้นคอ (LPR) คืออะไร ? ภาวะกรดไหลย้อนขึ้นคอ (Laryngopharyngeal reflux) คือภาวะที่น้ำย่อยไหลย้อนขึ้นไปที่หลอดอาหารเหนือช่วงอก เช่น ลำคอส่วนบน คอหอย หรือบริเวณใกล้กับกล่องเสียง ทำให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณลำคอ มีอาการไอ มีเสมหะ และอาจส่งผลให้มีน้ำมูก และขัดจมูกได้อีกด้วย กรดไหลย้อนขึ้นคอ กับ กรดไหลย้อนทั่วไป ต่างกันยังไง ? กรดไหลย้อนขึ้นคอ คือ กรดไหลย้อนขั้นที่อันตรายกว่า เพราะน้ำย่อยจะอยู่ในหลอดอาหารส่วนบนไปแล้ว คือ ลำคอ แทนที่จะอยู่ในหลอดอาหารช่วงอกเหมือนกรดไหลย้อนทั่วไป ซึ่งกรดไหลย้อนขึ้นคอ อาจความเสี่ยงติดเชื้อบริเวณลำคอได้ กรดไหลย้อนขึ้นคอ กรดไหลย้อนทั่วไป Tips: หูรูดหลอดอาหารส่วนบนและส่วนล่าง เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อน โดยหูรูดหลอดอาหารส่วนบนจะเชื่อมกับลำคอ และหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างจะเชื่อมกับกระเพาะ สาเหตุของกรดไหลย้อนขึ้นคอ กรดไหลย้อนขึ้นคอ หรือกรดไหลย้อนทั่วไป อาจเกิดได้จากการบีบตัวของกระเพาะ หรืออาจเกิดจากความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหูรูดในหลอดอาหารส่วนบนและส่วนล่าง 

ไอ มีเสมหะ ระคายเคืองคอ จากโรคกรดไหลย้อน ! Read More »

5 อาหารบำรุงตับ

5 อาหารบำรุงตับ

ตับคืออีกอวัยวะที่สำคัญของระบบการทำงานในร่างกาย ซึ่งทั้งสองระบบมีส่วนสำคัญต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ทำให้เราไม่อาจมองข้ามความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตับได้ หน้าที่ของ “ตับ” ตับทำหน้าที่สำคัญหลายอย่างในร่างกาย ตั้งการสร้างโปรตีนที่ใช้รักษาระบบไหลเวียนของเลือด ควบคุมการแข็งตัวของเลือด หรือแม้แต่การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และยังเป็นตัวกรองสารพิษที่เข้ามาายในร่างกาย ทำให้ตับต้องมีการทำงานอยู่ตลอดเวลา ไม่ต่างจากหัวใจ ฉะนั้นการรักษาสุขภาพตับไว้ให้แข็งแรง จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ! ที่มาข้อมูล : ทำความเข้าใจหน้าที่ตับ พร้อมทริครักตับ 7 ประการ หากตับทำงานผิดปกติ ส่งผลต่อร่างกายยังไงบ้าง ? เมื่อตับทำงานผิดปกติ อาจทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีมากนัก และส่งผลต่อไปอีกกับการขับสารพิษในร่างกาย เช่น การปัสสาวะ หรือขับถ่าย เป็นต้น และภาวะผิดปกติของตับ มักจะไม่แสดงอาการออกมาให้เห็นชัดมากนัก แต่ยังสามารถสังเกตได้จากอาการเหล่านี้… อาการของร่างกาย เมื่อตับทำงานผิดปกติ ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถบอกภาวะผิดปกติ แลความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับตับได้ โรคที่เกี่ยวกับตับ 5 อาหารบำรุงตับ Tips:ควรสมดุลการกินไขมันโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 (น้ำมันพืชหรือเนย) เสมอ เพราะโอเมก้า 6 มีส่วนกระตุ้นความเสี่ยงให้เกิดโรคตับมากขึ้นนั่นเอง นอกจากอาหารเหล่านี้ที่ช่วยลดภาวะผิดปกติที่จะเกิดขึ้น ก็มีปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพในตับได้ เช่น

5 อาหารบำรุงตับ Read More »

เด็กทารกร้องไห้ไม่หยุด แบบไม่ทราบสาเหตุ แก้ไขยังไง ?

เด็กทารกร้องไห้ไม่หยุด แบบไม่ทราบสาเหตุ แก้ไขยังไง ?

เพราะเด็กทารกไม่สามารถพูดบอกกับเราได้ การร้องไห้จึงเป็นพฤติกรรมที่จะบ่งบอกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นในตัวเด็ก ๆ และการที่พวกเขาร้องไห้ไม่หยุด ร้องไห้ขึ้นมาเฉย ๆ โดยที่เราไม่ทราบสาเหตุ เกิดจากอะไรได้บ้าง ? ทารกร้องไห้ไม่หยุด เกิดจากอะไร ? การที่เด็กทารกร้องไห้ออกมา เป็นเหมือนสัญญาณเตือนบางอย่าง ที่กำลังบอกความผิดปกติของพวกน้องอยู่ ซึ่งอาจเกิดได้จาก 2 ภาวะนี้ ! 1.ภาวะโคลิค (Colic) ภาวะโคลิค (Colic) หรือภาวะที่เด็กจะร้องไห้เป็นเวลานานต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเย็นหรือกลางคืน และไม่มีสาเหตุของการเกิดภาวะนี้ที่แน่ชัด มักเกิดในช่วงอายุ 1-2 เดือน แต่ภาวะนี้สามารถหายเองได้เมื่อเด็กโตแล้ว  วิธีสังเกตภาวะโคลิค (Colic) ในเด็กทารก ทารกที่มีภาวะโคลิคอาจสังเกตได้ยาก  เพราะมีความคล้ายคลึงกับการร้องไห้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากตัวคุณพ่อ-คุณแม่ หรือรู้สึกไม่สบายตัวของเด็กทารกเอง 2.อาการป่วย และภาวะอื่น ๆ โดยการร้องไห้ที่เกิดจากอาการป่วย หรือภาวะอื่นจะมีลักษณะที่ต่างออกไป ซึ่งสามารถสังเกตได้จากลักษณะการร้อง ท่าทางของเด็กทารกที่แสดงออกมา เช่น ถ้าเด็กทารกร้องไม่สุดเสียง และร้องเป็นเวลานาน ๆ ปลอบยังไงก็ไม่หยุด ประกอบกับท่าทางที่เหนื่อยล้า และอุณหภูมิร่างกายผิดปกติ จะหมายถึงว่าเด็กทารกมีอาการป่วย วิธีช่วยให้ทารกหยุดร้องไห้ อ่านข้อมูลสมุนไพรเพิ่มเติมได้ที่นี่ “ซิกหลี่ซั้ว” ความต้องการของเด็กทารกนั้นจะถูกแสดงออกมาผ่านการร้องไห้

เด็กทารกร้องไห้ไม่หยุด แบบไม่ทราบสาเหตุ แก้ไขยังไง ? Read More »

4 วิธีชะลอวัยทองในผู้หญิง (ป้องกันปัญหาวัยทองก่อนวัยอันควร !)

4 วิธีชะลอวัยทองในผู้หญิง (ป้องกันปัญหาวัยทองก่อนวัยอันควร !)

ช่วงวัยแต่ละช่วงของเรา แบ่งแยกได้จากอายุ สุขภาพ และการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของเรา และ วัยทอง เป็นอีกหนึ่งช่วงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก โดยเฉพาะในผู้หญิง… วัยทองในผู้หญิง คืออะไร ? วัยทอง คือช่วงที่ร่างกายทำงานได้ไม่สมบูรณ์เหมือนเดิม เช่น การย่อยอาหาร การขับถ่าย การเคลื่อนไหว หรือความรู้สึกทางเพศที่ลดลง เป็นต้น ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงจากภายในร่างกาย เช่น ฮอร์โมน หรืออวัยวะบางส่วนทำงานน้อยลง โดยเฉพาะรังไข่ ทำให้ในวัยนี้จะไม่มีประจำเดือน หรือที่เรียกในอีกแบบหนึ่งก็คือ วัยหมดประจำเดือน นั่นเอง ช่วงอายุที่ผู้หญิงจะเริ่มเข้าสู่วัยทอง ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือนับตั้งแต่มีการขาดประจำเดือนมากกว่า 1 ปี  โดยจะมีอาการผิดปกติของร่างกายอื่น ๆ ร่วมด้วย วัยทองในผู้หญิง เสี่ยงภาวะอะไรบ้าง ? วิธีสังเกตสัญญาณเตือน “วัยทองในผู้หญิง” ผู้หญิงบางคนอาจขาดประจำเดือนก่อนช่วงอายุวัยทองปกติ (ประมาณ 40 ปี) ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่พบไม่บ่อยนัก โดยจะเรียกว่า การเข้าสู่วัยทองก่อนวัย อาจทำให้พบปัญหาของวัยทองในช่วงเวลาที่บางคนยังไม่พร้อม ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันในเวลานั้น ๆ ได้

4 วิธีชะลอวัยทองในผู้หญิง (ป้องกันปัญหาวัยทองก่อนวัยอันควร !) Read More »

ท้องเสียหนัก ? เช็กด่วน อาจเป็นเพราะโนโรไวรัส

ท้องเสียหนัก ? เช็กด่วน อาจเป็นเพราะโนโรไวรัส

โนโรไวรัส (Norovirus) เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร โดยมีระยะฟักตัว 12-48 ชั่วโมง ไวรัสชนิดนี้มีความทนทานต่อความร้อน ยาฆ่าเชื้อ และแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ทำให้สามารถแพร่เชื้อได้ง่ายถึงแม้ได้รับเชื้อในปริมาณน้อยก็ตาม โนโรไวรัสสามารถติดต่อได้ในทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กเล็ก เด็กโต จนถึงผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กเล็กอาจมีอาการรุนแรงกว่าวัยอื่น ๆ อาการจากการติดเชื้อโนโรไวรัสในช่วง 24 – 48 ชั่วโมง มักจะมีอาการดังนี้ การดูแล รักษาตัวเองเบื้องต้น การป้องกันตัวเองจากโนโรไวรัส เนื่องจากเชื้อโนโรไวรัสติดต่อได้ง่าย ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน และไม่มียารักษาจำเพาะ การดูแลตัวเองให้รับประทานอาหาร และน้ำดื่มที่สะอาด รวมถึงการล้างมืออย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อโนโรไวรัสได้นั่นเอง แหล่งที่มา : โรงพยาบาลศิครินทร์, โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์

ท้องเสียหนัก ? เช็กด่วน อาจเป็นเพราะโนโรไวรัส Read More »

ไตรกลีเซอไรด์สูง ภัยร้ายใกล้หัวใจและหลอดเลือด

ไตรกลีเซอไรด์สูง ภัยร้ายใกล้หัวใจและหลอดเลือด

ไตรกลีเซอไรด์ ไขมันตัวร้ายที่อยู่ในอาหารเกือบทุกเมนูที่เราชอบ หากไม่ใส่ใจสุขภาพดี ๆ เจ้าไขมันนี้จะส่งผลอันตรายต่อร่างกายมากกว่าที่คิด…อาจถึงขั้นอันตรายต่อส่วนสำคัญของร่างกายอย่าง หัวและหลอดเลือดได้เลย ! ไตรกลีเซอไรด์ คืออะไร ? ไขมันอีกประเภทที่เกิดจากกรดไขมันต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็น มารวมกัน มักมาจากการกินอาหารที่มีไขมัน คาร์โบไฮเดรต และน้ำตาลมาก  เมื่อกินอาหารดังกล่าวเข้าสู่ร่างกาย ไขมันเหล่านั้นจะเปลี่ยนเป็นพลังงานให้ร่างกายทันที และไขมันส่วนที่ไม่จำเป็นก็จะกลายเป็นไตรกลีเซอไรด์ และสะสมไว้ในร่างกายส่วนอื่น ๆ เพื่อรอการนำพลังงานเหล่านั้นไปใช้งานในครั้งถัดไป  ไตรกลีเซอไรด์ กับ คอเลสเตอรอล ! ไตรกลีเซอไรด์สูง ส่งผลต่อหัวใจและหลอดเลือดยังไง  ? ไตรกลีเซอไรด์จะอยู่ในกระแสเลือดในหลอดเลือดแดง เมื่อมีจำนวนไตรกลีเซอไรด์มากเกินความจำเป็นของร่างกาย หรือไม่ถูกนำไปใช้เป็นพลังงาน ก็เหมือนเป็นเศษตกค้างไปติดอยู่ที่ผนังหลอดเลือด  ซึ่งอาจทำให้หลอดเลือดเกิดการอักเสบ หลอดเลือดแข็ง หรือมีไขมันอุดตันในหลอดเลือดได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการสูบฉีดเลือดของหัวใจ และเกิดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ และภาวะหัวใจวายได้นั่นเอง โรคและภาวะผิดปกติจากไตรกลีเซอไรด์ วิธีลดไตรกลีเซอไรด์ในร่างกาย ในทางการแพทย์มียาที่สามารถช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ได้ แต่ก็มีการแนะนำให้ปรับพฤติกรรมบางอย่าง โดยเฉพาะการกินอาหาร เพราะไตรกลีเซอไรด์จะมาจากอาหารเป็นส่วนใหญ่ เช่น ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลนครธน : ภาวะไขมันในเลือดสูง คุมอาหารแบบไหนช่วยได้ หรือการทานสมุนไพรบางชนิด ที่มีสรรพคุณเกี่ยวกับการบำรุงระบบไหลเวียนเลือด และลดไขมันในเลือด

ไตรกลีเซอไรด์สูง ภัยร้ายใกล้หัวใจและหลอดเลือด Read More »

ลูกหายใจครืดคราด แก้ยังไง ?

ลูกหายใจครืดคราด แก้ยังไง ?

คุณพ่อกับคุณแม่มือใหม่ หลายท่านอาจกำลังดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด ค่อนข้างเป็นกังวล และตื่นตูมมากเมื่อลูกน้อยท่าทางบางอย่างที่ผิดปกติไปจากเดิม และรีบกดค้นหาหาอาการเหล่านั้นในเน็ตกันเป็นว่าเล่น ที่พบได้บ่อย คงเป็นอาการหายใจครืดคราดตอนลูกน้อย เด็กหายใจครืดคราด ปกติหรือไม่ ? หายใจครืดคราด เป็นเสียงนกหวีด ค่อนข้างเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กทารก และเด็กที่มีอายุ 3-6 ขวบขึ้นไป เพราะปอดของน้อง ๆ ยังมีขนาดเล็กอยู่ มีระบบทางเดินหายใจที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่ โดยทั่วไป อาการนี้มักหายได้เองเมื่อลูกโตขึ้น แต่ในบางกรณี อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแล สาเหตุยอดฮิตที่ทำให้ ลูกหายใจครืดคราด อาการหายใจครืดคราด หายใจเป็นเสียงนกหวีด สามารถเกิดจากปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน  อ่านเพิ่มเกี่ยวกับโรคหลอดลมอักเสบได้ที่  โรงพยาบาลนครธน : หลอดลมอักเสบ พบได้ทุกช่วงอายุ  วิธีดูแลเมื่อลูกหายใจครืดคราด ท่าเคาะปอดจะช่วยระบายเสมหะที่ติดค้างอยู่ในปอด และทางเดินหายใจ ทำให้เด็ก ๆ จะหายใจได้สะดวกมาก 1.ให้ใช้ผ้าขนหนู หรือสวมใส่เสื้อผ้าให้เด็ก ห้ามใช้มือสัมผัสกับผิวโดยตรง 2. ให้จัดท่าทางของเด็กให้อยู่ในท่านอนหงาย (หรือจะอยู่ในท่านอนคว่ำ หรือท่านอนตะแคง หรือจะอุ้มพาดบ่าก็ได้ ตามความเหมาะสม)  3.ใช้อุ้งมือค่อย ๆ เคาะลงไปบริเวณซี่โครงด้านบนของหน้าอกเบา ๆ หลีกเลี่ยงการเคาะลงที่หน้าอก ซี่โครงส่วนล่าง

ลูกหายใจครืดคราด แก้ยังไง ? Read More »

เป็นร้อนในที่ลิ้นบ่อย ๆ สัญญาณเตือน โรคมะเร็งลิ้น !

เป็นร้อนในที่ลิ้นบ่อย ๆ สัญญาณเตือน โรคมะเร็งลิ้น !

ใครมีแผลหรือร้อนในที่ลิ้นบ่อย ร้อนในหายช้า ต้องระวัง! เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายอย่างมะเร็งก็ได้! แต่จริงหรือไม่ที่ร้อนในที่ลิ้นบ่อย ๆ จะเสี่ยงเป็นมะเร็งลิ้น? มาหาคำตอบพร้อมวิธีสังเกตและป้องกันได้ในบทความนี้ ร้อนในที่ลิ้นบ่อย ๆ เสี่ยงมะเร็งลิ้น! จริงหรือไม่? ไม่เสมอไปค่ะ เพราะลักษณะของทั้งสองมีความคล้ายกันมาก โดยเราสามารถสังเกตได้จากอาการเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทั้งสองมีสาเหตุของการเกิดที่แตกต่างกัน เป็นร้อนในที่ลิ้นบ่อย ๆ เกิดจากอะไร ? สาเหตุของการเกิดร้อนในที่ลิ้นยังไม่แน่ชัด แต่อาจมีที่มาจากสาเหตุเหล่านี้ ซึ่งอาจเป็นที่มาของการติดเชื้อบริเวณลิ้นแบบเรื้อรังได้ โดยปกติร้อนในที่ลิ้นจะดีขึ้นเป็นปกติใน 1-2 อาทิตย์ แม้จะไม่ได้ทายารักษา แต่ถ้าหากเป็นร้อนในที่ลิ้นบ่อย ๆ เรื้อรัง ไม่หายสักที อาจเป็นสัญญาณเตือนของปัญหาสุขภาพ   โรคมะเร็งลิ้น คืออะไร ? มะเร็งลิ้นคือมะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณลิ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของช่องปาก สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งบริเวณโคนลิ้นและตัวลิ้น โดยส่วนใหญ่มักเป็นชนิด มะเร็งสเควมัสเซลล์ (Squamous cell carcinoma) ซึ่งเป็นเซลล์มะเร็งผิวหนัง มีโอกาสแพร่กระจายไปส่วนอื่น ๆ ไม่สามารถรักษาให้หาย และมะเร็งลิ้นยังสามารถเกิดจากการติดเชื้อ HPV บางชนิดได้เช่นกัน อาการของโรคมะเร็งลิ้น วิธีสังเกตอันไหนร้อนใน อันไหนมะเร็งลิ้น ? ทั้งสองอย่างมีลักษณะคล้ายกันมาก

เป็นร้อนในที่ลิ้นบ่อย ๆ สัญญาณเตือน โรคมะเร็งลิ้น ! Read More »

8 วิธีปกป้องตัวเองจากฝุ่น PM2.5 ก่อนสายเกินไป!

8 วิธีปกป้องตัวเองจากฝุ่น PM2.5 ก่อนสายเกินไป!

ฝุ่น PM2.5 สร้างความกังวลใจให้กับคนไทย เนื่องจากฝุ่น PM2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งเล็กมากจนสามารถแทรกซึมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ถุงลมปอด และกระแสเลือดได้โดยตรง ทำให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ผลกระทบของฝุ่น PM2.5 ต่อสุขภาพ การเรียนรู้วิธีรับมือ และป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM2.5 จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ วันนี้เรามี 8 วิธีง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ด้วยตัวเองมาฝากกัน ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง ตรวจสอบค่า AQI ผ่านแอปพลิเคชัน Air4Thai หรือเว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ เพื่อวางแผนกิจกรรมประจำวัน หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หากค่า AQI สูง ควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะการออกกำลังกายหรือจำกัดเวลาให้น้อยที่สุด สวมหน้ากาก N95 หรือ N99 ช่วยป้องกันฝุ่น PM2.5 เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และเปลี่ยนหน้ากากเป็นประจำเมื่อใช้งานต่อเนื่อง ใช้เครื่องฟอกอากาศ เลือกเครื่องที่มีแผ่นกรอง HEPA เพื่อดักจับฝุ่น PM2.5 และหมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองเป็นประจำ ดื่มน้ำให้มาก ๆ

8 วิธีปกป้องตัวเองจากฝุ่น PM2.5 ก่อนสายเกินไป! Read More »

Scroll to Top