ทั่วไป

แค่มีคนทักว่า ผอมไป อ้วนไป อย่าเพิ่งกังวล ถ้าอยากรู้ว่าเรา ผอมไป อ้วนไป หรือกำลังดี เราต้องมาวัดกันที่ ค่าดัชนีมวลกาย BMI ค่าที่อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม >> 18.5 – 22.9 กิโลกรัมต่อตารางเมตร … วิธีการคำนวณก็ง่ายนิดเดียว น้ำหนัก (กิโลกรัม) / [ส่วนสูง (เมตร)]2 ตัวอย่าง : น้ำหนัก = 68 กิโลกรัม, ส่วนสูง = 165 เซนติเมตร (เท่ากับ 1.65 เมตร) วิธีคิด : 68 / (1.65)2 = 24.98 … ผอมเกินไป (น้อยกว่า 18.5) น้ำหนักปกติ เหมาะสม (18.6 – 22.9) น้ำหนักเกิน (23.0 – 24.9) อ้วน (25.0 – 29.9) อ้วนมาก (30.0 ขึ้นไป) … ลองมาคำนวณหาค่า BMI กันนะคะ ถ้าผลออกมาอยู่ที่ 30.0 ขึ้นไปอันตรายมากนะคะ ต้องรีบหันกลับมาดูแลตัวเองด่วนๆเลย ด้วยความห่วงใยจาก แบแป๊ะเลี้ยง

Testosterone ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ︎ ฮอร์โมนของความเป็นชาย … ฮอร์โมนหลักที่ช่วยกระตุ้นให้แสดงลักษณะความเป็นชาย มีบทบาทสำคัญในพัฒนาภาวะแรกรุ่นรวมถึงความสามารถในการสืบพันธุ์ … การเพิ่มฮอร์โมน Testosterone โดยธรรมชาตินั้น สามารถเพิ่มได้ทุกครั้งที่คุณออกกำลังกาย ” ” โดยการออกกำลังกายแบบ Compound คือการออกกำลังกายโดยการยกของหนักเป็นหลัก แต่ใช้เวลาไม่นาน ตัวอย่างท่าออกกำลังกาย เช่น Bench Press , Squats หรือ Deadlift ท่าเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายของเราผลิต Testosterone ออกมามากขึ้นกว่าปกติ ร่างกายก็จะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง สาวๆต้องเหลียวมองกันอย่างแน่นอน แบแป๊ะเลี้ยง สมุนไพรจีน

การนอนเพียงพอ คือ การที่เรานอนจนเรารู้สึกตัวตื่นขึ้นเอง โดยที่ไม่มีอาการงัวเงีย หรือ อยากจะนอนต่อ ไม่มีอาการอ่อนเพียง ร่างกายกระปรี้กระเปร่า พร้อมทำกิจกรรมต่างๆได้ตลอดทั้งวันนั้นเอง . . แต่ถ้า Checklist ออกมาตรงกับอาการต่างๆในรูปนี้ คุณกำลังนอนไม่พอเข้าให้แล้วละคะ

วัยทำงานอย่างเราเรื่องที่หนีไม่พ้นอีก 1 เรื่อง . . คือนอนดึก นอนน้อย วันนี้เรามีวิธีการชาร์จพลังระหว่างวันมาฝากกัน เราเรียกวิธีนี้ว่า “Power Nap” เทคนิคการนอนแบบ “Power Nap” คือ งีบหลับ 25 – 30 นาที เช่น ช่วงพักเที่ยงก็งีบหลับสักหน่อย 25 – 30 นาที เป็นการนอนเพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมอง แต่ถ้าเกิดหลับยาวเป็น 1 ชั่วโมง จะไม่ใช่การนอนแบบ “Power Nap” จะทำให้เกิดความเฉื่อย และงัวเงีย หลังจากตื่น .. “Power Nap” วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้เรามีพลังในการทำงานต่อระหว่างวัน

นอนดึก นอนน้อย ไม่เท่ แต่ป่วย .. หลายๆครั้งที่แอดมินไปเจอเพื่อนๆ มักจะชอบคุยกันว่างานเยอะมากเลย เรานะนอนวันละ 3 ชั่งโมงเอง ?? “น้ำเสียงแบบว่าสุดยอดปะละ” .. อันที่จริงการนอนแบบนี้ไม่เท่ แต่ป่วย นะคะ ร่างกายของเรานั้นใช้งานมาทั้งวัน ก็จะมีความอ่อนล้า แต่ต้องการพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพราะการนอนหลับพักผ่อนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายของเราได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ .. ดังนั้นการนอนที่ดีคือ นอนไม่เกิน 22.00 น. และควรนอนให้ได้ 6 – 8 ชั่วโมง จะช่วยให้เรา สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ไม่ป่วยง่าย และที่สำคัญสมองแล่นดีเลยละ

รับมือกับวัยทองด้วยวิธีธรรมชาติ “วัยทอง” เป็นเรื่องของธรรมชาติ ไม่มีใครสามารถพ้นวันเสื่อมนี้ไปได้ ไม่ใช่โรคร้าย วัยทองเกิดจากความเสื่อมตามธรรมชาติของมนุษย์เรา ดังนั้นเราจึงสามารถดูแลตัวเองในช่วงวัยทองได้ด้วย วิธีธรรมชาติ ◆ จัดการกับความเครียด ปล่อยวางกับปัญหาที่เจอในชีวิตประจำวัน ทำงานอดิเรกที่เราชอบ มีอารมณ์ขัน ยิ้มหัวเราะในทุกๆวัน ◆ดูแลเรื่องน้ำหนักตัว อย่าปล่อยให้ผอม หรืออ้วนจนเกินไป ที่สำคัญของวัยนี้คือจะอ้วนง่ายมากๆ เพราะการเผาผลาญอาหารลดลง อ้วนมากไป จะเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ความดัน เบาหวาน ไขข้อ มะเร็ง ผอมจนเกินไป จะเสี่ยงต่ออาการวัยทองรุ่นแรง ขาดสารอาหาร กระดูกพรุน ◆ ดูแลเรื่องอาหาร ทานอาหารที่มีกากใย (ไฟเบอร์) สูง ช่วยป้องกันท้องผูก ท้องอืด ลดไขมันในเลือด รับประทานผักผลไม้สด ความรับประทานให้ได้ 5 ส่วนต่อวัน เลือกทานอาหารไขมันต่ำ ลดการรับประทาน ไข่แดง เนื้อสัตว์ หนังหมู หนังไก่ ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที … ด้วยความห่วงใยจาก แบแป๊ะเลี้ยง

เครื่องดื่มที่ฮิตดื่มกันทั่วทุกมุมโลกเลยก็ว่าได้ บางอย่างก็มีโทษมหาศาลแต่เราก็ยังหยุดกินไม่ได้ โดยเฉพาะน้ำอัดลม ที่โฆษณากันว่าดื่มแล้วสดชื่น ชีวิตมีความสุข แอดมินว่าก็จริงนะคะตอนดื่มเข้าไปเวลาอากาศร้อนๆเนี่ย สดชื่นเลยค่ะ แต่ถ้าเราดื่มบ่อย ๆ ทุกวัน วันละหลายๆกระป๋อง หรือหลายขวด แน่นอนค่ะปัญหาสุขภาพตามมาแน่นอน ดังนั้นแอดมินแนะนำว่าดื่มกันแต่พอดี เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีของเรานะคะ ด้วยความเป็นห่วง จาก แบแป๊ะเลี้ยง

โรคเครียด โรคท็อปฮิตตลอดกาลของคนบนโรคใบนี้ คงไม่มีโรคใดโค่นแชมป์ได้ ด้วยจุดเด่นของโรคนี้คือ เป็นง่าย เป็นได้ทุกเวลา ไม่ต้องอาศัยเชื้อโรคตัวใดๆ หายแล้วก็เป็นอีกได้ เป็นซ้ำๆ ซากๆ จะหายก็ต่อเมื่อจะหายเครียดไปเอง แอดมินแบ่งความเครียดเป็น 2 ลักษณะดังนี้ 1. เครียดเพื่อเตรียมพร้อมสู้ หรือหนีภัยสภาวะฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ แผ่นดินไหว หมาวิ่งไล่งับ หากเรามีภาวะดังนี้สมองจะสั่งการให้เรา วิ่งสุดชีวิตวิ่งได้เร็วมาก แบกตู้เย็น แบกโอ่ง ยังทำได้เลย ทั้งหมดไม่ใช่ปฏิหาริย์นะคะ แต่เป็นเพราะน้ำตาลและฮอร์โมนที่หลั่งออกมาแล้วเราได้ใช้งานจนหมดเกลี้ยงจนไม่เหลือเลยก็ว่าได้ ถึงขั้นหอบแฮกลิ้นห้อยกันเลย 2. เครียด อารมณ์เสียควันออกหู เช่น โมโหเจ้านาย รถติดวินาศสันตะโร ทะเลาะกับแฟน เครียดปัญหาทางด้านการเงิน เครียดในลักษณะนี้ระวัง “อ้วน” เพราะเราจะนั่งคิดนอนคิดตลอดเวลาถึงเรื่องที่เครียด แล้วก็จะกินแล้วนอน โดยที่ร่างกายจะไม่ได้เผาผลาญพลังงาน เช่นเดียวกันเลยเมื่อเราเครียดร่างกายจะสั่งให้น้ำตาลออกมาเตรียมรับภาวะฉุกเฉินแต่คราวนี้เรากลับไม่ได้เอาน้ำตาลเหล่านี้มาใช้ ก็ได้แต่ลอยเท้งเต้งในกระแสเลือด เดือดร้อนไปถึงตับอ่อนที่ต้องหลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมากวาดน้ำตาลเพื่อไม่ให้เลือดกลายเป็นน้ำเชื่อม และไปขัดขวางการดูดซับออกซิเจนของเม็ดเลือดแดง ลองคิดดูซิคะถ้าเราเครียดบ่อยๆ จะกระตุ้นให้น้ำตาลออกมามากขนาดไหน แล้วแบบนี้เราจะไม่อ้วนได้ยังไงจริงไหมคะ เห็นไหมคะว่าความเครียดน่ากลัวขนาดไหน และไม่ส่งผลดีอะไรต่อร่างกายเราเลย งั้นเรามาหยุดความเครียดด้วยวิธีต่าง ๆ ที่แอดมินได้เอามาแนะนำตามภาพด้านล่างนี้กันดีกว่าค่ะ ด้วยความเป็นห่วง จาก แบแป๊ะเลี้ยง

10 ข้อคิด ใช้ชีวิตให้มีคุณค่า หลายๆท่านต้องเจอกับความกังวลมากมายในชีวิต มีเรื่องกระทบจิตใจเราได้ตลอดเวลา แล้วแบบนี้เราจะทำยังเพื่อให้เราไม่เครียด และดำรงชีวิตในทุกวันได้อย่างมีความสุข และสุขภาพแข็งแรง ถ้าใจเราเป็นสุขเชื่อเถอะค่ะว่าสุขภาพของเราก็จะดีไปด้วย วันนี้แอดมินมี “10 ข้อคิด ใช้ชีวิตให้มีคุณค่า” มาฝากพี่ๆน้องๆ แฟนเพจ แบแป๊ะเลี้ยง กันค่ะ

คุณเป็นโรคแบบ หยิน หรือ หยาง กันแน่? ︎ เราสามารถสังเกตอาการได้ดังนี้ ️ โรคหยิง การแสดงอาการ หน้าซีด ไม่มีแรง ไม่รู้สึกหิวน้ำ แขนขาเย็น หนาว หายใจเบาชีพจรเต้นช้า ปัสสาวะมากสีใส ️ โรคหยาง การแสดงอาการ หน้าแดง ตาแดง หายใจแรง ตัวร้อน หงุดหงิด กระวนกระวาย เจ็บคอ คอแห้ง ชีพจรเต้นเร้ว ปัสสาวะเหลืองเข้ม รู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมเช็คตัวเอง และดูแลตัวเองด้วยนะคะ ด้วยความห่วงใยจาก แบแป๊ะเลี้ยง