ทั่วไป

อารมณ์ทั้ง 7 ส่งผลกระทบอย่างไรต่อร่างกาย

อารมณ์ทั้ง 7 ส่งผลกระทบอย่างไรต่อร่างกาย

ในทฤษฎีของการแพทย์แผนจีน อารมณ์ ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ เกิดโรคหรือทำให้โรคเดิมแย่ลงได้ โดยอารมณ์ทั้ง 7 ได้แก่ โกรธ ยินดี เศร้าโศก วิตกกังวล ครุ่นคิด หวาดกลัว และตกใจ มีผลกระทบต่อทิศทางการไหลเวียนลมปราณของอวัยวะภายใน เพราะเมื่ออารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง และต่อเนื่องนาน ๆ จะส่งผลให้ร่างกายเสียสมดุล อารมณ์ทั้ง 7 มีผลกับอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายต่างกันอย่างไรบ้าง ? อารมณ์โกรธ กระทบต่อตับ ทำให้ลมปราณในตับ ทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เลือด และลมปราณไหลเวียนไม่สะดวก จนเกิดอาการปวดหัว เวียนหัว หงุดหงิดง่าย อาจมีปัญหาเรื่องกระเพาะอาหารร่วมด้วย เนื่องจากลมปราณตับไปกระทบม้าม อารมณ์ยินดี กระทบต่อหัวใจ หากดีใจมากจนเกินไป จะทำให้ลมปราณหัวใจกระจัดกระจาย ส่งผลให้ใจสั่น วิตกกังวล อ่อนเพลีย ไม่มีสมาธิ อารมณ์เศร้า กระทบลมปราณปอด ทำให้ลมปราณในปอดอ่อนแอลง จนเกิดอาการหายใจลำบาก อ่อนเพลีย และกระทบอวัยวะอื่น ๆ ตามมา เช่นไปกระทบต่อลมปราณหัวใจ จนเกิดอาการใจสั่น เป็นต้น …

อารมณ์ทั้ง 7 ส่งผลกระทบอย่างไรต่อร่างกาย Read More »

อย่าเข้าใกล้ต้นกล้วยในตอนกลางคืน...ถ้าไม่อยากเจอ ปาเจียวกุ่ย

อย่าเข้าใกล้ต้นกล้วยในตอนกลางคืน…ถ้าไม่อยากเจอ ปาเจียวกุ่ย

ปาเจียวกุ่ย (Ba jiao gui) หรือที่รู้จักกันในชื่อของ ผีต้นกล้วย เป็นวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ในต้นกล้วยคล้ายผีตานีของไทย แต่มีความน่ากลัวกว่า มักปรากฏในรูปของหญิงสาวที่สวมใส่เครื่องแต่งกายสีเขียวหรือขาว ผมดำยาว มีใบหน้าที่สละสลวย ตามตำนานเล่าว่า ปาเจียวกุ่ย เกิดจากหญิงสาวที่ถูกฆาตกรรม และฝังไว้ที่ต้นกล้วย จนกลายมาเป็นวิญญาณอาฆาตที่คอยจ้องเล่นงานผู้ที่ผ่านไปมาบริเวณต้นกล้วยที่นางสิงสู่ หรือบางตำนานก็กล่าวไว้ว่า ปาเจียวกุ่ย เกิดจากต้นกล้วยที่สะสมพลังหยินจากพระจันทร์ และพลังหยางจากพระอาทิตย์ จนเมื่อได้รับเลือดของมนุษย์ วิญญาณในต้นกล้วยก็จะสามารถกลายร่างเป็นสิ่งที่เหมือนมนุษย์ผู้หญิงได้ เชื่อกันว่าหากมีคนนำด้ายแดงมาผูกไว้ที่ต้นกล้วย และปาเจียวกุ่ยไปเข้าฝันใครเพื่อให้นำด้ายแดงออก เธอจะตอบแทนคุณด้วยการให้เลขลอตเตอรี่ แต่หากคุณผิดคำสัญญาไม่ยอมนำด้ายแดงออก เมื่อใดก็ตามที่ด้ายแดงเสื่อม ก็เตรียมตัวพบกับเธออีกครั้งได้เลย

มาดูกันว่า คุณเป็นคนแบบไหน ตามหลักแพทย์จีน ได้ที่นี่

มาดูกันว่า คุณเป็นคนแบบไหน ตามหลักแพทย์จีน ได้ที่นี่

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางคนถึงแข็งแรงอยู่เสมอ แต่บางคนกลับป่วยง่าย หรือทำไมบางคนถึงมีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับอยู่บ่อย ๆ ? นั่นเป็นเพราะคนแต่ละคนถูกจัดอยู่ในกลุ่มพื้นฐานสุขภาพที่แตกต่างกัน โดยอาศัยทฤษฎีหยิน-หยาง และทฤษฎีปัญจธาตุ รวมถึง ชี่ การแบ่งกลุ่มตามพื้นฐานสุขภาพของร่างกาย จะทำให้ง่ายต่อการดูแล ป้องกัน และรักษาโรคที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายได้ง่ายขึ้น รวมถึงการส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรงด้วยเช่นกัน กลุ่มต่าง ๆ ตามพื้นฐานสุขภาพของร่างกาย กลุ่ม สมดุล กลุ่ม หยางพร่อง กลุ่ม หยินพร่อง กลุ่ม ชี่พร่อง กลุ่ม ชี่อั้น กลุ่ม เสมหะชื้น กลุ่ม ร้อนชื้น กลุ่ม เลือดคั่ง การแบ่งกลุ่มตามหลักแพทย์จีนนั้นเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้น เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย และการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีในระยะยาวเพียงเท่านั้น

การฝังเข็มคืออะไร และช่วยดูแลอาการใดได้บ้าง

การฝังเข็มคืออะไร และช่วยดูแลอาการใดได้บ้าง

การฝังเข็ม เป็นศาสตร์การแพทย์แผนจีนโบราณ โดยอาศัยหลักการปรับสมดุลของพลังงานภายในร่างกาย ที่เรียกว่า “ชี่” ซึ่งเชื่อว่าเป็นพลังงานที่ไหลเวียนในร่างกาย รวมถึงปรับอวัยวะ และระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้กลับมาสมดุล อาการที่การฝังเข็มอาจช่วยบรรเทาได้ กลุ่มผู้ป่วยที่ไม่ควรรักษาด้วยการฝังเข็ม การฝังเข็ม เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพ และต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ และพื้นฐานร่างกายของตัวผู้ป่วย ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

MPLM72 Post 08 1200x628px

ปรับสมดุลร่างกาย เพิ่มพลังชีวิต ด้วย เต๋าอิ่น ศาสตร์โบราณที่ทรงพลัง

เต๋าอิ่น เป็นศาสตร์การฟื้นฟูร่างกายที่สืบทอดมาจากแพทย์แผนจีนโบราณ มุ่งเน้นการปรับสมดุลของร่างกาย และจิตใจ โดยอาศัยหลักการของพลังชี่ที่ไหลเวียนภายในร่างกาย ตัวอย่างท่าพื้นฐานเต๋าอิ่น ท่าล้างหน้า ใช้ฝ่ามือถูหน้าจากล่างขึ้นบนถึงหางคิ้ว นิ้วโป้งคลึงหลังใบหู นิ้วกลางกดคลึงร่องจมูกทั้งสองข้าง ทำซ้ำ 6-12 ครั้ง ท่าหมุนเอว ยืนแยกเท้าทั้งสองให้อยู่ระดับเดียวกับหัวไหล่ มือทั้งสองแตะเอว จากนั้นค่อย ๆ หมุนเอวซ้ายขวาเบา ๆ ทำซ้ำ 6-12 ครั้ง ท่ายกขา ยกขาซ้ายเสมือนก้าวไปข้างหน้า จากนั้นลดขาลงช้า ๆ พร้อมแกว่งแขนไป ทำสลับข้างซ้าย ขวา ซ้ำ 6-12 ครั้ง ประโยชน์ของการฝึกเต๋าอิ่น เต๋าอิ่น เป็นศาสตร์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการตึง เกร็งของกล้ามเนื้อหรือภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหลอดเลือดสมอง เต๋าอิ่นจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีส่วนช่วยบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยได้

เผาจื้อคืออะไร

เผาจื้อคืออะไร ? สำคัญอย่างไรต่อสมุนไพรจีน

การเผาจื้อ มีความหมายว่า การแปรรูป เป็นเทคนิคการเตรียมยาสมุนไพรแบบดั้งเดิมในศาสตร์การแพทย์แผนจีน โดยใช้ความร้อนเพื่อเปลี่ยนสภาพของสมุนไพร ทำให้สมุนไพรมีสรรพคุณทางยาที่แตกต่างออกไป และสะดวกต่อการใช้งานสมุนไพร โดยวิธีการเตรียมการเผาจื้อจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ ประโยชน์ของการเผาจื้อ หลังจากผ่านกระบวนการเผาจื้อแล้ว สมุนไพรจะพร้อมสำหรับการนำไปใช้เป็นยา ยาที่ผ่านการเผาจื้อแล้วจึงมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และมีรสชาติที่ดีขึ้นนั่นเอง การเผาจื้อ เป็นศาสตร์ที่ซับซ้อน ต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ และทักษะ เปรียบเสมือนภูมิปัญญาอันล้ำค่าของจีน ที่ผสมผสานศาสตร์แห่งการแพทย์ เภสัชกรรม และปรัชญาเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

สรรพคุณของยา ผ่านสีของยาจีน

สรรพคุณของยา ผ่านสีของยาจีน

สีของยาจีน ถูกกำหนดขึ้นจากทฤษฎีปัญจธาตุ มีสรรพคุณ และวิธีใช้ที่แตกต่างกัน ซึ่งสีของยาจีนแต่ละสีจะถูกกำหนดแทนธาตุทั้ง 5 ดังต่อไปนี้ สีเขียว ธาตุไม้ สีแดง ธาตุไฟ สีเหลือง ธาตุดิน สีขาว ธาตุทอง สีดำ ธาตุน้ำ อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้สีของยาจีนในการรักษาเป็นเพียงแนวคิดประกอบการรักษา และวิเคราะห์จากแพทย์แผนจีน เพราะยังมียาจีนอีกหลายชนิดที่แม้สีจะไม่ตรงกับลักษณะพิเศษหรือคุณสมบัติหลัก แต่ก็สามารถรักษาได้อย่างหลากหลาย และช่วยดูแลอวัยวะโดยรวมของเราได้อย่างดี

MPLM66 Post 09 1200x628px

ชวนรู้จัก ถุงหอมสมุนไพรจีน ของขวัญแทนใจ สารพัดประโยชน์

ถุงหอม หรือ กระเป๋าหอม คือ ถุงที่มีกลิ่นหอมจากสมุนไพรนานาชนิดอยู่ภายใน มีสรรพคุณทางยาในการป้องกันและรักษาโรค มักถูกแขวนไว้ตามบ้านเพื่อป้องกันแมลงมากัดกินผ้าที่ทอไว้ และในสตรีชั้นสูงมักพกติดตัวเพื่อเพิ่มเสน่ห์ จึงทำให้ถุงหอมกลายเป็นที่รู้จัก ต่อมา ถุงหอม ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก โดยฝ่ายหญิงจะบรรจงถักทอลวดลายบนถุงให้สวยงาม และมอบให้อีกฝ่ายเพื่อแสดงถึงความรัก ความห่วงใย และยังรวมถึงการขจัดสิ่งช่วยร้าย นำพาโชคดี อีกด้วย ประโยชน์ของถุงหอม สมุนไพรที่มักนิยมมาใส่ในถุงหอม นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพรอีกหลายชนิดที่นิยมนำมาทำถุงหอมตามฤดูกาลหรือตามการใช้งาน เพื่อมอบให้กับคนที่รักตามเทศกาลต่าง ๆ นั่นเอง

MPLM65 Post 08 1200x628px

ไหว้ดี มีเฮง บูชาเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยรับตรุษจีน

เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย คือเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง โชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง โดยฤกษ์การไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ย คือตั้งแต่เวลา 23:00 น. เป็นต้นไป และจัดโต๊ะหันตามทิศต่าง ๆ ที่เชื่อว่าเทพจะเสด็จลงมา (โดยในปี 2567 จะเป็นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้) ของไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย วิธีไหว้และคาถาบูชาเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือ ตำแหน่งการวางรูปปั้น หรือภาพวาดเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย ควรวางไว้บนที่สูง เพราะมีความเชื่อว่า ยิ่งวางไว้สูงเท่าใด ความมั่งคั่ง และโชคลาภก็จะมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

เคล็ดลับดูแลสุขภาพ ตามนาฬิกาชีวิต

เคล็ดลับดูแลสุขภาพ ตามนาฬิกาชีวิต

เพราะนาฬิกาชีวิต เปรียบได้กับวงจรการทำงานของร่างกาย ซึ่งจะมีความเหมาะสมตามช่วงเวลาและอวัยวะของร่างกายแต่ละส่วนต่างกันไป เวลา 01:00 – 03:00 น. : ช่วงเวลาของตับควรพักผ่อนเพื่อให้ตับทำงานได้อย่างเต็มที่ และหลั่งสารมีลาโทนินเพื่อขับสารพิษในร่างกาย เวลา 03.00 – 05.00 : ช่วงเวลาของปอดช่วงเวลาตื่นนอนเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ให้ปอดทำงาน ฟอกเลือดได้อย่างเต็มที่ จะช่วยผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส เวลา 05.00 – 07.00 : ช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่เหมาะสำหรับการขับถ่าย เพื่อขับของเสียในร่างกาย ซึ่งสามารถกระตุ้นได้ด้วยการดื่มน้ำ 2 แก้วหลังตื่นนอน และควรขับถ่ายเป็นประจำ เวลา 07.00 – 09.00 : ช่วงเวลาของกระเพาะอาหารช่วงเวลาของการทานมื้อเช้า เพราะเป็นช่วงที่ย่อยอาหารได้ดีที่สุด ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เวลา 09.00 – 11.00 : ช่วงเวลาของม้ามและตับอ่อนไม่ควรนอนช่วงเวลานี้ เพราะม้ามและตับอ่อนกำลังทำงาน อาจเกิดผลเสียได้ ทำให้มีอาการไม่มีแรง อ่อนเพลียได้ หากนอนในช่วงเวลานี้ เวลา 11.00 – 13.00 : ช่วงเวลาของหัวใจเพราะเป็นช่วงที่ความดันเลือดจะสูงขึ้นกว่าปกติ …

เคล็ดลับดูแลสุขภาพ ตามนาฬิกาชีวิต Read More »

Scroll to Top