การแพทย์แผนจีน เป็นศาสตร์การรักษาที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน มีเทคนิคการรักษา และดูแลสุขภาพที่หลากหลาย โดยมีหลักการสำคัญคือการปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งมองว่าร่างกายเป็นระบบที่เชื่อมโยงกัน การรักษาจึงมุ่งเน้นไปที่การปรับสมดุลของร่างกายแบบองค์รวมเป็นหลัก
วิธีการรักษาแพทย์แผนจีนแต่ละแบบ
การฝังเข็ม (Acupuncture)
เป็นการใช้เข็มขนาดเล็กฝังลงบนจุดต่าง ๆ บนร่างกาย โดยจุดเหล่านี้จะถูกเลือกตามเส้นลมปราณที่สัมพันธ์กับอวัยวะหรืออาการของผู้ป่วย มีประโยชน์ดังนี้
- กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและพลังชี่
- บรรเทาอาการปวด และอาการเรื้อรัง
- ปรับสมดุลพลังงานในร่างกาย

การครอบแก้ว (Cupping Therapy)
คือการใช้แก้วสุญญากาศครอบผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดการคั่งของของเสีย มีประโยชน์ดังนี้
- กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
- ขจัดของเสียและพิษออกจากร่างกาย
- ช่วยลดอาการปวดเมื่อยและตึงกล้ามเนื้อ

การกัวซา (Gua Sha)
เป็นการรักษาแบบบำบัดโดยการใช้อุปกรณ์ เช่น เขาสัตว์ หยกหรือหิน ขูดผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ขับพิษ มีประโยชน์ดังนี้
- ขจัดความเย็นและพิษจากร่างกาย
- กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ฟื้นฟูสุขภาพผิว
- บรรเทาอาการปวดเมื่อยและทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

การนวดทุยหนา (Tui Na)
เป็นการ นวด กดจุด ถู บีบ ดัดหรือกลิ้งบนจุดเส้นลมปราณตามร่างกาย เพื่อปรับสมดุลลมปราณภายใน กระตุ้นให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีประโยชน์ดังนี้
- ช่วยปรับสมดุลการไหลเวียนของเลือด
- บรรเทาอาการปวดเมื่อย
- ฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง

การรมยา (Moxibustion)
คือการนำโกฐจุฬาลัมพามาจุดไฟแล้วจี้หรือรมบริเวณจุดฝังเข็ม เพื่อให้ความร้อนกระตุ้นการไหลเวียนของชี่ และเลือด พร้อมขจัดพิษในร่างกาย มีประโยชน์ดังนี้
- กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และขจัดพิษในร่างกาย
- บรรเทาอาการปวด และเพิ่มการฟื้นตัว
- ขจัดเสมหะ บรรเทาอาการไอ หอบหืด

แม้การรักษาแบบแพทย์แผนจีนจะเน้นการปรับสมดุลร่างกาย แต่การเลือกใช้วิธีการรักษาแต่ละวิธีก็มีความเหมาะสมที่แตกต่างกัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนเพื่อขอคำแนะนำ และรับการรักษาที่เหมาะสม