4 สัญญาณเตือนมดลูกไม่แข็งแรง

4 สัญญาณเตือนมดลูกไม่แข็งแรง

ปวดท้องประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ปัสสาวะหรือขับถ่ายผิดปกติ! อาจดูเหมือนอาการที่สาว ๆ ต้องเจอทั่วไป แต่อาจไม่ได้เกิดขึ้นมาเฉย ๆ เพราะมักเป็นสัญญาณเตือนความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย โดยเฉพาะในมดลูก !

ซึ่งอาการผิดปกติในมดลูกเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น มีเพศสัมพันธ์แบบไม่สวมถุงยาง มีอาการแพ้ผ้าอนามัย ทั้งแบบธรรมดาและแบบสอด แพ้สารฆ่าเชื้อในถุงยางอนามัย หรือแม้แต่มีฮอร์โมนเพศที่ไม่สมดุล เช่น มีเอสโตรเจนเยอะเกินไป…

โดยสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่ามดลูกของสาว ๆ อาจไม่แข็งแรงแล้ว สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ เช่น

4 สัญญาณเตือนมดลูกไม่แข็งแรง

  1. ประจำเดือนมาผิดปกติ
    • เลือดประจำเดือนมามากผิดปกติ เช่น ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ทุก 1-2 ชั่วโมง, ประจำเดือนมานานกว่า 7 วัน หรือมีลิ่มเลือดขนาดใหญ่ปนออกมาจำนวนมาก อาจเป็นสัญญาณของภาวะเนื้องอกในมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือความผิดปกติของฮอร์โมน
    • ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ รอบเดือนมาสั้นหรือยาวกว่าปกติ หรือไม่มีประจำเดือน
    • มีเลือดออกกะปริบกะปรอย หรือมีเลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือน
  2. ปวดท้องน้อย หรือปวดท้องประจำเดือน
    • ปวดท้องน้อยเรื้อรัง อาจปวดหน่วง ๆ ตลอดเวลา
    • ปวดท้องประจำเดือนมาก ๆ แม้จะทานยาแก้ปวดแล้วก็ไม่ดีขึ้น
    • ปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ ปวดในช่องท้องน้อย หรือรู้สึกไม่สบายบริเวณอุ้งเชิงกราน 
  3. ตกขาวผิดปกติ
    • ตกขาวมีสีหรือกลิ่นที่เปลี่ยนไป เช่น ตกขาวมีสีเหลือง เขียว หรือมีเลือดปน มีกลิ่นคาวหรือกลิ่นเหม็นผิดปกติ อาจบ่งชี้ถึงการติดเชื้อหรือความผิดปกติอื่น ๆ เช่น มะเร็งปากมดลูก
  4. ปัสสาวะหรือการขับถ่ายผิดปกติ
    • ปัสสาวะบ่อยหรือรู้สึกปัสสาวะไม่สุด หากมดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้นจากเนื้องอกหรือมดลูกหย่อน จนอาจไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ
    • ท้องผูกหรือปวดเบ่งขณะขับถ่าย
    • ท้องบวมหรือมีขนาดหน้าท้องใหญ่ขึ้น อาจเกิดจากเนื้องอกในมดลูกที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

โดยภาวะมดลูกไม่แข็งแรง จะทำให้เกิดโรคและความเสี่ยงบริเวณใกล้เคียงกันได้ ซึ่งจะส่งผลต่อร่างกายด้านอื่นได้อีกด้วยค่ะ 

มดลูกไม่แข็งแรง เสี่ยงเป็นโรคอะไร ?

หากสาว ๆ เริ่มรู้สึกถึงอาการผิดปกติข้างต้นแล้ว อาจต้องรีบดูแลตัวเอง และควรตรวจร่างกายเป็นประจำ

  • เนื้องอกในมดลูก (Uterine Fibroids) ก้อนเนื้อที่เกิดในมดลูกที่ไม่ใช่ก้อนมะเร็ง ทำให้มีอาการปวดท้อง มีเลือดออกช่องคลอดผิดปกติ และรู้สึกปวดตอนมีเพศสัมพันธ์ หรือหลังมีเพศสัมพันธ์
  • เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) หรือช็อกโกแลตซีสต์ โรคที่เยื่อบุไปโตนอกโพรงมดลูก เสี่ยงเกิดอาการปวดท้อง และมีประจำเดือนผิดปกติ
  • ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญในกล้ามเนื้อมดลูก (Adenomyosis) คล้ายกับโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ แต่เยื่อบุจะไปเติบโตระหว่างชั้นกล้ามเนื้อมดลูกแทน ทำให้ประจำเดือนมามากผิดปกติ และเจ็บจี๊ดที่ท้อง
  • มดลูกหย่อน (Uterine Prolapse) ภาวะที่มดลูกไม่อยู่ในตำแหน่งปกติ ซึ่งทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ หรือมีเลือดออกช่องคลอดผิดปกติ
  • ผนังมดลูกบาง ซึ่งเกิดได้จากการขูดมดลูก และภาวะอื่น ๆ เช่น ภาวะฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายลดลง ทำให้เสี่ยงมีลูกยาก
  • มะเร็งมดลูก (Uterine Cancer) ไม่มีสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด แต่มีอาการปวดท้อง มีตกขาวผิดปกติ

ทั้งนี้อาการจะดีขึ้น เมื่อทำการรักษาและดูแลสุขภาพของตัวเองไปพร้อมกันด้วย ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยเคล็ดลับเหล่านี้!

เคล็ดลับมดลูกแข็งแรง

  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนไม่ติดมัน หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป น้ำตาลสูง และไขมันอิ่มตัวสูง เช่น
    • ผักโขม ผักคะน้า มีวิตามิน A C E และ K ช่วยเรื่องสมดุลฮอร์โมน
    • ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี
    • ปลาแซลมอนหรือทูน่า มีไขมันดี โอเมก้า 3 เสริมสร้างการทำงานมดลูกโดยตรง
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
  • จัดการความเครียด เพราะความเครียดส่งผลต่อฮอร์โมน เช่น โยคะ นั่งสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ชอบ 
  • ฝึกขมิบอุ้งเชิงกราน ป้องกันมดลูกหย่อน 
    • ขมิบค้างไว้ 5 วินาที
    • ผ่อนคลาย 5 วินาที

ท่าป้องกันมดลูกหย่อนได้ที่บทความนี้! 

แจก 6 ท่าโยคะ บริหารมดลูกหย่อน กระชับช่องคลอดให้แข็งแรง ฉบับง่าย

แต่ถ้ามีอาการเหล่านี้รุนแรงขึ้น หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีไข้สูง หรือปวดบริเวณสะโพกไปถึงช่วงหลัง ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และรับการรักษาอย่างถูกต้อง 

ที่มาข้อมูล

Dr.Rita Bashi : How to keep healthy uterus : Tips you should follow

Mayo Clinic : Cervicitis , Adenomyosis , Uterine fibroids

Cleveland Clinic : Uterine Cancer (Endometrial Cancer)

Scroll to Top