ทั่วไป

รวมอาหารกินเพลินแต่ผิวพัง…ระวังจะแก่เกินวัยโดยไม่รู้ตัว!

รวมอาหารกินเพลินแต่ผิวพัง…ระวังจะแก่เกินวัยโดยไม่รู้ตัว!

หลายคนอาจไม่รู้ว่าอาหารบางอย่างที่เรากินอยู่ทุกวัน กำลังทำร้ายผิวพรรณและเร่งให้ร่างกายเสื่อมโดยไม่รู้ตัว มาดูกันว่าตัวการเร่งแก่ที่เราควรเลี่ยงมีอะไรบ้าง น้ำตาลและของหวาน เช่น ขนมเค้ก, คุกกี้, น้ำอัดลม, ชาไข่มุก เมื่อร่างกายมีน้ำตาลมากเกินไปจากการทานอาหารหรือเครื่องดื่มเหล่านี้ จะทำให้เกิดกระบวนการที่เรียกว่า Glycation ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นลดลง และเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้น้ำตาลยังส่งผลให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของความเสื่อมของเซลล์ อาหารปิ้งย่าง เช่น หมูกระทะ, เนื้อย่าง, บาร์บีคิว อาหารปิ้งย่างที่ไหม้เกรียมหรือปรุงสุกด้วยความร้อนสูงมาก ๆ อาจมีสารก่อมะเร็ง ซึ่งเร่งกระบวนการเสื่อมของเซลล์ และทำให้ร่างกายแก่เร็วขึ้น อาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, อาหารกระป๋อง, ของหมักดอง อาหารรสเค็มจัดหรือมีโซเดียมสูง ทำให้ร่างกายเกิดอาการบวมน้ำ รวมถึงส่งผลเสียต่อไต และหลอดเลือดในระยะยาว ซึ่งเป็นปัจจัยที่เร่งให้ร่างกายเสื่อมสภาพเร็วขึ้น นอกจากนี้โซเดียมที่มากเกินไปอาจทำให้ผิวขาดน้ำ และดูหมองคล้ำได้อีกด้วย อาหารแปรรูป เช่น เบคอน, ไส้กรอก, แฮม, อาหารแช่แข็ง อาหารเหล่านี้มักอุดมไปด้วยสารกันบูด สี และไขมันที่ไม่ดี ซึ่งอาจก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกาย และเร่งกระบวนการเสื่อมของเซลล์ รวมถึงอาจส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้ร่างกายทำงานหนักขึ้นในการกำจัดสารพิษ อาหารทอดหรืออาหารที่มีไขมันทรานส์ เช่น เฟรนช์ฟราย, ไก่ทอด, […]

รวมอาหารกินเพลินแต่ผิวพัง…ระวังจะแก่เกินวัยโดยไม่รู้ตัว! Read More »

5 สาเหตุหลักของอาการปวดในศาสตร์แพทย์แผนจีนที่คุณอาจไม่เคยรู้

5 สาเหตุหลักของอาการปวดในศาสตร์แพทย์แผนจีนที่คุณอาจไม่เคยรู้

ในมุมมองของแพทย์แผนจีน อาการปวดไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญญาณจากร่างกาย แต่เป็นสัญญาณที่กำลังบอกว่าระบบภายในกำลังเสียสมดุล มาดูกันว่า อะไรคือ 5 สาเหตุหลักของอาการปวด ตามศาตร์แพทย์แผนจีน ลม (风) ความเย็น (寒) ความชื้น (湿) เลือดคั่ง (瘀血) เลือดและชี่พร่อง (气滞不足) แนวทางการรักษาอาการปวด ศาสตร์แพทย์จีนเน้นการรักษาที่ต้นเหตุของอาการปวด เช่น หากปวดจากลม และความเย็น ก็จะรักษาด้วยการขับลม และเสริมหยาง นอกจากนั้นยังมีอีกหลายวิธีในการรักษาเช่น อย่างไรก็ตามการรักษาอาการปวดตามศาสตร์แพทย์แผนจีนนั้น จำเป็นต้องพิจารณาสาเหตุร่วมกับอาการอื่น ๆ ของผู้ป่วย รวมถึงชีพจร และลิ้น เพื่อให้การรักษาด้วยสมุนไพร การฝังเข็มหรือการนวดทุยหนา มีประสิทธิภาพสูงสุด อ้างอิง : คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว, คลินิกฝังเข็ม โรงพยาบาลสิรินธรขอนแก่

5 สาเหตุหลักของอาการปวดในศาสตร์แพทย์แผนจีนที่คุณอาจไม่เคยรู้ Read More »

ปวดบ่อยต้องรู้! ประโยชน์ของการกดจุดเหอกู่

ปวดบ่อยต้องรู้! ประโยชน์ของการกดจุดเหอกู่

บ่อยครั้งที่เราต้องเผชิญกับออาการปวดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปวดหัว ปวดฟัน ปวดท้อง หรือปวดเมื่อยตามร่างกาย วันนี้เรามีเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดเหล่านี้ได้ด้วยตัวคุณเอง เพียงแค่รู้จัก “จุดเหอกู่” จุดเหอกู่ (合谷) คือจุดฝังเข็มสำคัญที่อยู่บนเส้นลมปราณลำไส้ใหญ่ ตำแหน่งของจุดนี้อยู่บริเวณด้านหลังของมือ ระหว่างโคนนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ หากลองบีบนิ้วโป้งกับนิ้วชี้เข้าหากัน จะเห็นจุดที่นูนขึ้นมา นั่นคือจุดเหอกู่ เนื่องจากศาสตร์การแพทย์แผนจีนมองว่า อาการปวด ต่าง ๆ มีสาเหตุมาจากการที่ ชี่ และเลือด ไหลเวียนไม่สะดวกหรือเกิดการติดขัดภายในร่างกาย เมื่อชี่ และเลือดสามารถกลับมาไหลเวียนได้อย่างราบรื่น อาการปวดเหล่านั้นก็จะทุเลาลง และหายไปในที่สุดนั่นเอง ประโยชน์ของการกดจุดเหอกู่ วิธีกดจุดเหอกู่ แต่มีข้อควรระวังอยู่หนึ่งอย่าง นั่นคือจุดเหอกู่ไม่เหมาะสำหรับสตรีมีครรภ์ เนื่องจากอาจกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวได้ รู้แบบนี้แล้ว…ถ้ารู้สึกปวด ก็อย่าลืมลองกดจุดเหอกู่ เพื่อบรรเทาอาการปวดด้วยตัวเองดูนะ อ้างอิง : คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว, โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เชียงราย

ปวดบ่อยต้องรู้! ประโยชน์ของการกดจุดเหอกู่ Read More »

MPLM81 Post 06 1200x628px

การเขียนบนถุงอาหารด้วยปากกาเมจิก อาจทำให้เสี่ยงมะเร็ง

เคยสังเกตไหม? เวลาไปจ่ายตลาดทีไร ก็มักจะเห็นปากเมจิกบนถุงอาหารที่เรากำลังซื้อจนชินตา แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่รู้ไหมว่า หมึกจากปากกาเมจิกสามารถซึมทะลุถุงได้ และสิ่งนี้อาจเป็นภัยเงียบที่กำลังทำร้ายสุขภาพของคุณอยู่โดยไม่รู้ตัว ทำไมแค่เขียนบนถุงอาหารด้วยปากกาเมจิก.ก็อาจกำลังเสี่ยงมะเร็ง เป็นเพราะหมึกปากกาเมจิกมีสารเคมีหลายชนิด รวมถึงสารเคมีที่เป็นตัวทำละลาย 2 ชนิด ซึ่งสารเคมีระเหยง่าย คือ และที่หมึกจากปากกาเมจิกสามารถซึมทะลุถุงเข้าไปได้นั้นเป็นเพราะ เมื่อถุงพลาสติกถูกความร้อน จะเกิดการขยายตัวขึ้น ทำให้ช่องว่างระหว่างโมเลกุลพลาสติกกว้างขึ้น ส่งผลให้ความชื้น อากาศ และสารเคมี สามารถแทรกซึมผ่านได้ง่ายขึ้น ทำให้หมึกของปากกาเมจิกซึมผ่านเข้ามาได้นั่นเอง หลีกเลี่ยงหรือป้องกันได้อย่างไร? สำหรับผู้ซื้อ สำหรับผู้ขาย นอกจากการหลีกเลี่ยงปากกาเมจิกแล้ว ถุงพลาสติกเองก็มีส่วนสำคัญ เพราะถุงร้อนใส่อาหารที่ได้มาตรฐาน จะทนความร้อนได้ 100-120 องศาเซลเซียส ทำให้สีหมึกไม่สามารถซึมผ่านเข้าไปได้ โดยจะมีอยู่ 2 ชนิด การใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้จะช่วยปกป้องคุณ และคนที่คุณรักจากความเสี่ยงที่ไม่คาดคิดได้นั่นเอง อ้างอิง : Food Fun Fact, Mahidol Channel, รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข,

การเขียนบนถุงอาหารด้วยปากกาเมจิก อาจทำให้เสี่ยงมะเร็ง Read More »

MPLM80 Post 09 1200x628px

เคล็ดลับคลายปวด คืนความสดชื่นให้ร่างกาย ต้องลองอบไอน้ำสมุนไพรจีน

ปวดเมื่อยตามตัว จนไม่อยากจะขยับเขยื้อนหรือรู้สึกอ่อนล้าเหมือนแบตเตอรี่ที่ใกล้หมดอยู่ตลอดเวลา หากใครที่กำลังมองหาทางออกให้อาการเหล่านี้ การอบไอน้ำสมุนไพรจีน อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังตามหา การอบไอน้ำสมุนไพรจีน (熏药) คือศาสตร์บำบัดจากธรรมชาติที่สืบทอดกันมายาวนานในแพทย์แผนจีน โดยใช้ไอน้ำที่มีส่วนผสมของสมุนไพรจีน กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และชี่ บรรเทาอาการปวดต่าง ๆ โดยไอน้ำร้อนช่วยเปิดรูขุมขน ขับของเสียออกผ่านเหงื่อ พร้อมพาสรรพคุณสมุนไพรซึมลึกเข้าสู่ผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและชี่ ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย และปรับสมดุลให้กับร่างกาย ประโยชน์ของการอบไอน้ำสมุนไพรจีน สมุนไพรจีนที่นิยมใช้ในการอบไอน้ำ เหมาะสำหรับใครบ้าง ข้อควรระวัง หากมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือหญิงตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน การอบไอน้ำสมุนไพรจีนไม่ใช่แค่ทางลัดในการผ่อนคลายความปวดเมื่อย แต่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยดูแลร่างกายให้แข็งแรงจากภายใน หากทำอย่างสม่ำเสมอร่วมกับการใช้ชีวิตที่สมดุล จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง จิตใจสงบ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้นั่นเอง อ้างอิง : คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

เคล็ดลับคลายปวด คืนความสดชื่นให้ร่างกาย ต้องลองอบไอน้ำสมุนไพรจีน Read More »

MPLM80 Post 06 1200x628px

ถึงเวลาตามหารสชาติมัทฉะแก้วโปรดของคุณแล้ว! ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มตรงไหน…มาทางนี้ได้เลย

มัทฉะ (Matcha) คือ ผงชาเขียวที่ได้จากใบชา นำมาบดจนได้ผงเนื้อเนียนละเอียด โดยทั่วไปมัทฉะสามารถแบ่งออกเป็น 3 เกรดหลัก ๆ ตามคุณภาพของใบชา กระบวนการผลิต และการใช้งาน มาดูกันว่ามัทฉะแบบไหนที่จะใช่สำหรับคุณ เกรดพิธีการ (Ceremonial Grade) เกรดพรีเมียม (Premium Grade) เกรดประกอบอาหาร (Culinary Grade) ตัวอย่างสายพันธุ์ชา ที่นิยมนำมาทำเป็นมัทฉะ ในโลกของมัทฉะนั้นมีอะไรให้ค้นหาอีกมากมาย การได้ลองชิม ชง ในรูปแบบต่าง ๆ นอกจากจะเป็นความสนุกรูปแบบหนึ่งแล้ว ยังเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้เจอมัทฉะที่ใช่ในแบบของตัวเองอีกด้วย แหล่งที่มา : matcha.com, matchazuki, InfoStory, STKC ศูนย์ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ถึงเวลาตามหารสชาติมัทฉะแก้วโปรดของคุณแล้ว! ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มตรงไหน…มาทางนี้ได้เลย Read More »

อาหารค้างคืน...แค่คืนเดียว เปลี่ยนจาก 'อร่อย' เป็น 'อันตราย' ได้ยังไง มาหาคำตอบกัน

อาหารค้างคืน…แค่คืนเดียว เปลี่ยนจาก ‘อร่อย’ เป็น ‘อันตราย’ ได้ยังไง มาหาคำตอบกัน

หลายคนอาจคิดว่าอาหารเก็บไว้ในตู้เย็นแล้ว ยังไงก็ปลอดภัยแต่รู้ไหมว่า…แค่ข้ามคืนเดียว อาหารอาจเปลี่ยนสภาพ กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพ และหากได้รับสะสมเป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย มาดูกันว่า “อาหารค้างคืน” ซ่อนความเสี่ยงอะไรไว้บ้าง แบคทีเรียเติบโตแม้ในตู้เย็น เชื้อโรคบางชนิด เช่น Listeria monocytogenes สามารถทนความเย็นได้ดี แม้อุณหภูมิในตู้เย็นจะต่ำ แต่ไม่ได้หยุดการเติบโตของเชื้อโรคได้ 100% อุ่นใหม่…ไม่ปลอดภัยเสมอไป การอุ่นอาหารไม่ได้ทำลายเชื้อโรคได้ทั้งหมด รวมถึงสารพิษบางชนิดมีความทนทานต่อความร้อนสูง คุณค่าลดลง…รสชาติเปลี่ยน การนำอาหารมาอุ่นซ้ำ สามารถทำให้สารอาหารบางชนิดลดลง เช่น วิตามินซี วิตามินบี รวมถึงทำให้รสชาติเปลี่ยนไปด้วย อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากอาหารค้างคืน เคล็ด(ไม่)ลับ กินอย่างไรให้ร่างกายแฮปปี้ ของเหลือแม้ไม่ใช่ของเสีย…แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยเสมอไป อย่าให้ความเสียดาย…กลายเป็นต้นเหตุทำร้ายสุขภาพ แหล่งที่มา : กรมอนามัย, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), มหิดล แชแนล

อาหารค้างคืน…แค่คืนเดียว เปลี่ยนจาก ‘อร่อย’ เป็น ‘อันตราย’ ได้ยังไง มาหาคำตอบกัน Read More »

ปลดล็อกความเมื่อยล้า ฟื้นฟูร่างกาย ด้วยศาสตร์การแช่เท้าแบบแพทย์แผนจีน

ปลดล็อกความเมื่อยล้า ฟื้นฟูร่างกาย ด้วยศาสตร์การแช่เท้าแบบแพทย์แผนจีน

บำรุงต้นไม้ต้องดูที่ราก บำรุงร่างกายต้องดูที่เท้า เป็นสุภาษิตของจีน ที่บ่งบอกถึงการให้ความสำคัญของการดูแลเท้า เนื่องจากในศาสตร์การแพทย์แผนจีน เท้า เปรียบเสมือน หัวใจที่สอง ของร่างกาย เพราะเท้าเป็นจุดเริ่มต้น และสิ้นสุดของเส้นลมปราณหลายเส้น ซึ่งเชื่อมโยงกับอวัยวะภายในต่าง ๆ ทั่วร่างกายนั่นเอง เคล็ดลับการแช่เท้าแบบแพทย์แผนจีน ช่วงเวลาแช่เท้าที่เหมาะสม: 19.00 – 23.00 น. เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เส้นลมปราณของตับ และไต ทำงานช้าลง การแช่เท้าในช่วงเวลานี้จะช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น น้ำแช่เท้าควรมีอุณหภูมิอยู่ที่ 38 องศา – 43 องศา เพราะหากน้ำร้อนเกินไป อาจทำให้ผิวแห้ง แตกได้ นอกจากนี้ ความร้อนที่สูงเกินไปยังทำให้หลอดเลือดขยายตัวมากเกินไป อาจลดการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ สมอง และไต ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ แช่ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 30 นาที เพราะเป็นระยะเวลาที่เพียงพอให้ร่างกายเกิดการตอบสนองต่อความร้อน เพราะหากปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป อาจส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ แช่ให้รู้สึกมีเหงื่อซึมบริเวณหน้าผากเล็กน้อย เพราะเป็นปฏิกิริยาที่บ่งบอกว่าร่างกายกำลังตอบสนองต่อความร้อนอย่างเหมาะสม และในทางแพทย์แผนจีน เหงื่อซึมเป็นสัญญาณของการเคลื่อนที่ของพลังงาน (ชี่) ที่ดี

ปลดล็อกความเมื่อยล้า ฟื้นฟูร่างกาย ด้วยศาสตร์การแช่เท้าแบบแพทย์แผนจีน Read More »

5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับตรุษจีน ที่คุณอาจไม่เคยได้ยิน

5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับตรุษจีน ที่คุณอาจไม่เคยได้ยิน

ตรุษจีน เทศกาลแห่งความสุขและการเริ่มต้นใหม่ของชาวจีน และผู้คนทั่วโลกที่มีเชื้อสายจีน แต่ยังมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน มาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง ตำนานตรุษจีนกับสัตว์ร้าย เหนียน มีตำนานเล่าว่าสัตว์ร้าย ‘เหนียน’ จะออกมาทำร้ายคนในวันสิ้นฤดูหนาว ผู้คนจึงป้องกันโดยการใช้สีแดง ประดับไฟ จุดประทัด เมื่อเหนียนไปแล้ว ผู้คนจึงออกมาเฉลิมฉลองความปลอดภัยร่วมกัน การใช้สีแดงและการเฉลิมฉลองนี้จึงกลายเป็นที่มาของประเพณีตรุษจีนในปัจจุบัน ตรุษจีนไม่ได้มีแค่วันเดียว หลายคนเข้าใจผิดว่าตรุษจีนคือวันเดียวจบ แต่จริง ๆ แล้วเทศกาลนี้ยาวนานถึง 15 วัน เริ่มตั้งแต่วันต้อนรับเทวดา ไปจนถึงเทศกาลโคมไฟ แต่ละวันก็จะมีกิจกรรมและความเชื่อที่แตกต่างกันไป เรียกได้ว่าฉลองกันยาว ๆ รับความเฮงกันไปเต็ม ๆ ความแตกต่างระหว่าง อั่งเปา และ แต๊ะเอีย ‘อั่ง’ แปลว่า แดง และ ‘เปา’ แปลว่า ซอง เมื่อรวมกันจึงกลายเป็น ซองสีแดง ส่วนคำว่า แต๊ะเอีย หมายถึง เงินหรือสิ่งที่อยู่ในซอง โดยนิยมใส่เงินในซองให้เป็นเลขคู่ (ยกเว้นเลข 4 เพราะออกเสียงคล้ายคำว่าความตาย) หรือเลขเรียงเพื่อสื่อถึงความสิริมงคล เช่น 888 800

5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับตรุษจีน ที่คุณอาจไม่เคยได้ยิน Read More »

MPLM76 Post 08 1200x628px

ชี่ หรือ ลมปราณ คืออะไรกันแน่? ทำไมถึงเป็นพลังงานที่ขับเคลื่อนชีวิตเรา ?

ในศาสตร์การแพทย์แผนจีน “ชี่” (Qi) หรือ ลมปราณ คือพลังงานสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิต และขับเคลื่อนทุกสิ่งที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย และธรรมชาติรอบตัวเรา การมีชี่ที่สมดุล เป็นกุญแจสำคัญของสุขภาพที่ดี ในทางกลับกัน หากชี่ไม่สมดุลก็อาจส่งผลให้เกิดความเจ็บป่วยหรืออาการผิดปกติต่าง ๆ ได้ ชี่ในร่างกายแบ่งเป็นหยิน และหยาง ชี่หยินมีลักษณะเย็น ให้ความสงบ และลดทอน ส่วนชี่หยางมีลักษณะร้อน ให้พลังงาน และกระตุ้น ทั้งสองทำงานประสานกันเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย ที่มาของ ชี่ ตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน หน้าที่สำคัญของ ชี่ ดูแล ชี่ อย่างไรให้สมดุล? หากชี่ในร่างกายไม่สมดุล อาจเกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ได้ เช่น ระบบย่อยอาหารผิดปกติ ภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือเกิดอาการเหนื่อยล้า ดังนั้น การดูแลชี่ในร่างกายให้สมดุล จึงไม่เป็นเพียงแค่การช่วยเสริมสุขภาพกาย และใจ แต่ยังช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างเต็มศักยภาพนั่นเอง แหล่งที่มา : คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว

ชี่ หรือ ลมปราณ คืออะไรกันแน่? ทำไมถึงเป็นพลังงานที่ขับเคลื่อนชีวิตเรา ? Read More »

Scroll to Top