การสำลักอาหาร อาจเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนทั่วไป ที่เกิดขึ้นแล้วหายไปในเวลาไม่นาน แต่ในผู้สูงวัย การสำลักอาหารนั้น อันตรายกว่าที่คิดมาก และอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
ทำไมผู้สูงวัยถึงเสี่ยงสำลักอาหาร
ผู้สูงวัยมีความเสี่ยงสำลักอาหารมากกว่าคนทั่วไป เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลโดยตรงต่อการกลืน ไม่ว่าจะเป็น
- กล้ามเนื้อการกลืนอ่อนแรง – เนื่องจากความเสื่อมของร่างกายตามวัย ทำให้กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการกลืนอ่อนแรงลง การประสานงานของระบบประสาทในการควบคุมการกลืนก็ลดประสิทธิภาพลงเช่นกัน
- ช่องปากแห้ง น้ำลายน้อย – ทำให้กลืนได้ลำบาก เพิ่มความเสี่ยงที่อาหารจะหลุดเข้าไปในทางเดินหายใจ จนเกิดการสำลักได้
- การเคี้ยวไม่ละเอียด – จากปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน เช่น ฟันไม่ครบหรือฟันปลอมไม่พอดี
- โรคทางระบบประสาท – เช่น พาร์กินสัน หรือโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อกระบวนการกลืน
สำลักอาหารแบบไหนที่ควรมาพบแพทย์
- สำลักเป็นประจำหรือบ่อยครั้งระหว่างทานอาหารหรือหลังรับประทานอาหาร และดื่มน้ำ
- ไออย่างรุนแรงจนหน้าแดง หายใจหอบเหนื่อย หายใจไม่ออกหรือไอจนหมดแรง
- มีประวัติการติดเชื้อจากการสำลักมาก่อน
- กินอาหารได้น้อยลงเพราะกลัวการสำลัก จนน้ำหนักลดลง
- การสำลักในผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น พาร์กินสัน อัมพฤกษ์ อัมพาต
อันตรายจากการสำลักอาหาร
ปอดอักเสบจากการสำลัก
เป็นอันตรายที่พบบ่อย และรุนแรงที่สุด เกิดจากเศษอาหาร น้ำ หรือแม้แต่น้ำลายและเสมหะในช่องปากหลุดเข้าไปในหลอดลมและปอดแทนที่จะลงหลอดอาหาร ทำให้เกิดการติดเชื้อ และอักเสบอย่างรุนแรงในปอด
ภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจ
หากสำลักอาหารชิ้นใหญ่ อาจทำให้หลอดลมถูกปิดกั้นอย่างฉับพลัน ทำให้หายใจไม่ออก ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
วิธีป้องกัน และลดความเสี่ยงการสำลักอาหาร
- เลือกอาหารที่อ่อน นุ่ม เคี้ยวง่าย
- นั่งตัวตรงขณะทานอาหาร และทานช้า ๆ
- บริหารกล้ามเนื้อคอ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืน ลดความเสี่ยงการสำลัก โดยการก้ม-เงยศีรษะ และเอียงซ้าย-ขวา ค้างไว้ท่าละ 5 วินาที ทำซ้ำ 5 ครั้ง
- บริหารกล้ามเนื้อปาก ช่วยให้กล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคี้ยว และกลืนมีความแข็งแรง โดยการออกเสียง อา อู อี โอ เอ ค้างไว้คำละ 5 วินาที ทำซ้ำ 5 ครั้ง
การสำลักอาหารในผู้สูงวัยไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยที่ควรมองข้าม การใส่ใจดูแล และป้องกันอย่างถูกวิธี จะช่วยลดความเสี่ยง รวมถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อให้ผู้สูงวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดี และปลอดภัยยิ่งขึ้น
อ้างอิง : โรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลธนบุรี, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย





